กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช (Photosynthesis)
กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช (Photosynthesis)
ที่มา: https://www.scimath.org/lesson-biology/item/10517-2019-07-18-01-41-56
ปัจจัยที่มีผลต่อการสังเคราะห์แสงของพืช
1. ความเข้มของแสง
ถ้ามีความเข้มของแสงมาก อัตราการสังเคราะห์ด้วแสงจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะความเข้มของแสงมีผลต่อการสังเคราะห์ด้วยแสงร่วมกับอุณหภูมิ ถ้าหากอุณหภูมิสูงขึ้นเพียงอย่างเดียว แต่ความเข้มของแสงน้อยจะไม่ทำให้อัตราการสังเคราะห์ด้วยแสงเพิ่มขึ้น
2. อุณหภูมิ
เรียกได้ว่าเป็นปัจจัยที่มีผลต่อการสังเคราะห์แสงของพืชเลยก็ว่าได้ และโดยทั่วไปอัตราการสังเคราะห์แสงจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเมื่ออุณหภูมิสูงถึง 10-35 องศาเซลเซียส ถ้าหากว่าอุณหภูมิสูงขึ้นมากกว่านี้ อัตราการสังเคราะห์ด้วยแสงจะลดต่ำลงตามอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น
3. ความเข้มข้นของคาร์บอนไดออกไซด์
ถ้าความเข้มข้นของคาร์บอนไดออกไซด์ เพิ่มขึ้นจากระดับปกติที่มีอยู่ในชั้นบรรยากาศ อัตราการสังเคราะห์ด้วยแสงจะเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย ถึงแม้ว่าความเข้มข้นของคาร์บอนไดออกไซด์จะสูงขึ้น แต่อัตราการสังเคราะห์ด้วยแสงไม่ได้สูงขึ้นตามไปด้วย และถ้าหากว่าพืชได้รับคาร์บอนไดออกไซด์ ที่มีความเข้มข้นสูงกว่าระดับน้ำแล้วเป็นเวลานานๆ จะมีผลทำให้อัตราการสังเคราะห์ด้วยแสงลดต่ำลงได้
4. ก๊าซออกซิเจน
โดยปกติแล้วออกซิเจนจะมีโดยทั่วไปในชั้นบรรยากาศ แต่ถ้าก๊าซออกซิเจนลดลงจะมีผลทำให้อัตราการสังเคราะห์ด้วยแสงสูงขึ้น หากมีมากเกินไปจะทำให้เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน ของสารต่างๆ ภายในเซลล์ โดยเป็นผลมาจากพลังงานแสง (Photorespiration) รุนแรงขึ้น จึงให้เกิดการสังเคราะห์ด้วยแสงลดลง
5. น้ำ
เป็นสิ่งสำคัญในกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง (แต่ก็ต้องการประมาณ 1% เท่านั้น จึงไม่ค่อยสำคัญมากนักเพราะพืชมีน้ำอยู่ภายในเซลล์อย่างเพียงพอ) ดังนั้นน้ำมีผลต่อกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงในส่วนช่วยกระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ให้ปฏิกิริยาเกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์
6. อายุของใบ
ใบอ่อนของพืชคลอโรฟิลล์ยังเจริญไม่เต็มที่ ส่วนใบที่แก่มากๆของพืช คลอโรฟิลล์จะสลายตัวไปเป็นจำนวนมาก ดังนั้นใบจะต้องไม่แก่หรืออ่อนเกินไป
7. ธาตุอาหาร
ธาตุอาหารเป็นสิ่งสำคัญในการสังเคราะห์แสงของพืชทั้งทางตรงและทางอ้อมเลยก็ว่าได้ ธาตุแม็กนีเซียมและไนโตรเจน หากขาดสารเหล่านี้จะทำให้พืชมีอาการใบเหลืองซีด ที่เรียกว่าคลอโรซิล เนื่องจากใบขาดคลอโรฟิลล์
การเปลี่ยนรูปพลังงานที่เกิดจากกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง
1. พลังงานแสงจะเปลี่ยนรูปเป็นพลังงานเคมีได้ น้ำตาลกลูโคส น้ำและออกซิเจน
2. น้ำตาลกลูโคสจะเปลี่ยนเป็นแป้งทันที เกิดการสะสมไว้ในเซลล์ และแป้งจะถูกเปลี่ยนเป็นน้ำตาลกลูโคส เมื่อพืชต้องการสลายน้ำตาลกลูโคสเป็นพลังงาน
3. เมื่อพืชเกิดการคายน้ำ ออกซิเจนจะถูกปล่อยออกมาทางปากใบและออกสู่บรรยากาศ
รงควัตถุที่ใช้ในกระบวนการสังเคราะห์แสง
รงควัตถุที่ใช้ในการสังเคราะห์แสง ได้แก่ คลอโรฟิลล์ แคโรทีนอยด์และไฟโคบิลิน ในเซลล์โพรติสท์บางชนิด และเซลล์พืชที่มีการสังเคราะห์ด้วยแสง ต่างมีรงควัตถุที่แตกต่างกันออกไปดังตาราง
ชนิดของรงควัตถุ | ช่วงแสงที่ดูดกลืนแสง(nm) | ชนิดของพืช |
คลอโรฟิลล์ คลอโรฟิลล์ เอคลอโรฟิลล์ บีคลอโรฟิลล์ ซีคลอโรฟิลล์ ดี | 420, 660 435, 643 445, 625 450, 690 | พืชชั้นสูงทุกชนิดและสาหร่ายพืชชั้นสูงทุกชนิดและสาหร่ายสีเขียวไดอะตอมและสาหร่ายสีน้ำตาลสาหร่ายสีแดง |
คาร์โรทีนอยด์ เบตา คาร์โรทีนแอลฟา คาร์โรทีนลูตีออล (Luteol)ไวโอลาแซนธอล (Violaxanthol) แกมมา คาร์โรทีน ฟูโคแซนธอล (Fucoxanthol) | 425, 450, 480 420, 440, 470 425, 445, 475 425, 450, 475 – 425, 450, 475 | พืชชั้นสูงและสาหร่ายส่วนใหญ่พืชส่วนใหญ่และสาหร่ายบางชนิดสาหร่ายสีเขียว สีแดงและพืชชั้นสูงพืชชั้นสูง แบคทีเรีย ไดอะตอมและสาหร่ายสีน้ำตาล |
ไฟโคบิลินส์ ไฟโคอีรีธรินส์(Phycoerythrins)ไฟโคไซยานินส์(Phycocyanins) | 490, 546, 576 618 | สาหร่ายสีแดง และสาหร่ายสีน้ำเงินสาหร่ายสีน้ำเงินแกมเขียว และสาหร่ายสีแดงบางชนิด |
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น